Praya Dining : สำรับชาววัง กับความอลังในวิลล่าริมเจ้าพระยา

ป ชวนชิม : Praya Dining – สำรับชาววัง กับ ความอลังในวิลล่าริมเจ้าพระยา

สถานที่ – วิลล่าสมัย ร 6 ริมเจ้าพระยา ฝั่งตรงข้ามคือสวนสันติชัยปราการ ขนาบข้างซ้าย-ขวาด้วยสะพานพระรามแปด และ สะพานพระปิ่นเกล้า ตัววิลล่า งดงามคลาสสิคมาก ในปัจจุบันเป็นโรงแรม Praya Palazzo หรือ คฤหาสน์ของพระยา

การเดินทางต้องใช้ทางเรือเท่านั้น โดยร้านจะส่งเรือมารับที่ท่าเรือใกล้เคียง สะดวกสุดน่าจะเป็นจากท่าพระอาทิตย์ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ซึ่งเป็นท่าเรือด่วนเจ้าพระยา

ระหว่างนั่งเรือ เห็น รร อยู่ไกลๆ

ท่าเรือ รร ถึงละ

เรือรับ-ส่ง

เห็นป้าย รร ก่อน

ถ้ายืนยันจะเอารถมา เขาว่าให้จอดที่วัดราชาธิวาชแล้วขึ้นเรือของร้านก็ได้เช่นกัน ถึงท่าเรือ โทรแจ้งร้าน รอเรือมารับ ไม่นานค่ะ ประมาณ 5 นาที ถึงท่าเรือ รร แอบเผลอคิดว่าตัวเองหลงยุคเข้ามาสมัยต้นรัตนโกสินทร์กันเลยทีเดียว

้ร้านสวยมากทั้งด้านนอกและด้านใน วันที่ไปกำลังปรับปรุงพื้นที่สวนด้านหน้า แหม เสียดายจัง

ในร้านส่วนใหญ่เป็นโทนแดง มีสองชั้น ชั้นบนเป็นห้องส่วนตัวจัดเลี้ยง

ั้ชั้นสอง เปิดประตูเข้ามา ว้าวเลย

บรรยากาศในสวนมีความธรรมชาติสูงมากๆ มีไม้นานาพันธุ์ทั้งไม้ดอกและไม้ใบ ได้เสียงนกร้องจิ้บๆเป็นระยะ แถมถ่ายรูปนกได้ในระยะกระชั้นชิดเลยทีเดียว

ยิงนกมาตัวนึงด้วยมือถือ

ถึงเวลาที่รอคอยละ

อย่างหรู ขอเป็นคุณนิ่มของไอ้ทศ วันนึง 55 ติดละคร สัตยาธิษฐานฮ่ะ

ผ้าเช็ดปาก ไม่อยากคลี่กันเลยทีเดียว

อาหารทั้งหมด

อาหาร : เริ่มด้วย

Amuse buse – complimentary dish

มีสองอย่าง คือ ทองพลุ กับ ม้าฮ่อ

ทองพลุไส้ไก่ – เป็นเมนูที่ตั้งชื่อเพื่อให้ชีวิตโชติช่วง ดั่งพลุ ลักษณะเหมือนเอแคลร์ ไส้เป็นไก่สับปรุงรส อันนี้เนื้อด้านนอกกระด้างไป ไส้รสโอเค 6/10

ม้าฮ่อ – อร่อยเลยๆ สับปะรดหวานอมเปรี้ยว หน้าด้านบนหวานเค็มกำลังงาม 9/10

สำรับกับข้าวแบบ main dish ที่สั่งมา จานใหญ่ผิดคาด นึกว่าจะน้อยๆ ไหวมั้ยนี่ (ไหววว)

่ล่าเตียง (250) – สำรับไทยสมัย ร 2 ซึ่งมีที่มาจาก เหตุคิดถึงภริยา รสเหมือนไข่ยัดไส้ แต่ไข่ทำเป็นร่างแหด้านนอก ไส้เป็นหมูสับปรุงรสกับถั่ว รสชาติกลมกล่อมเจือความเผ็ดเล็กๆของพริกหยวก 9/10

แกงจืดลูกเงาะ (280) – ไม่ได้ทำจากเงาะ มันคือแกงจืดผักกาดขาวที่หมูสับปั้นเป็นก้อนและผสมวุ้นเส้นทำให้ดูเหมือนลูกเงาะ หมูสับนุ่มมี texture หยาบๆหน่อย อร่อยดี แต่น้ำแกงจืดสุดๆเหมือนน้ำเปล่า ต้องขอน้ำปลาเติม ให้ 7/10

หมูผัดส้มเสี้ยว (350) – ใช้ใบส้มเสี้ยว ซึ่งเป็นสมุนไพรทางภาคเหนือ มีรสเปรี้ยว และ มีสรรพคุณบำรุงเลือด ช่วยการไหลเวียนโลหิต ตำกับพริกแกง แล้วผัดกับหมู ทำให้รสชาติเปรี้ยวแบบธรรมชาติ เจือรสเผ็ดนัวร์ๆจากพริกแกง หมูเนื้อกระด้างไปนิด ถ้าเนื้อนุ่ม จะแจ่มโคตร เมนูนี้เป็นเมนูสำรับไทยสมัย ร 5 ให้ 9

ข้าวสวย (50) – ข้าวเม็ดสวยนุ่มดี 8/10

อินทนิล (180)- สาคูใบเตยตัดเป็นสี่เหลี่ยม ต้มน้ำกะทิสด โรยมะพร้าวอ่อน สาคูชิ้นหนึบ มะพร้าวอ่อนอร่อยมาก กะทิสดหอม หวานมากไปนิด นิดเดียวจริงๆ 8.5/10

้น้ำเปล่าขวด (40)
บริการ – แนะนำดีมากๆ อธิบายละเอียด รู้จริงรู้ลึกสุดๆ หักคะแนนตรงไม่โทรมา confirm การจอง on line และ ตอนจบ ไม่มีใครมาแนะนำว่าต้องบอกใครให้ตามเรือให้ เลยให้คะแนน 8
เมนูอาหารมีแบบ set ที่รวบรวม signature dish และเมนูเด่นของร้านด้วยนะ แต่ต้องมาสองคนขึ้นไป ที่เอามาให้ดูเป็นตัวอย่างเมนู 4 คน เฉลี่ยคนละ 700+ บาท ดูดีมากเลย

แต่เนื่ิองจากอิชั้นฉายเดี่ยวเลยต้องสั่งสำรับ a la carte แทน แอบเศร้าเล็กๆ

เมนูมีแบ่งตามยุคสมัย ทั้งสุโขทัย อยุธยา และ รัตนโกสินทร์ ส่วนใหญ่จะเป็นยุคหลังสุด ชื่ออาหารเราอาจเคยได้ยินจากกาพย์เห่เรือมาบ้าง แต่ อิชั้นเป็นไพร่ ความรู้เรื่องเครื่องคาว-หวาน แทบเป็น 0 เลยถามน้องที่ร้านเยอะนิดนึง จริงๆไม่นิดเท่าไร 55
ราคา – มื้อนี้ สั่งเยอะม๊ากก อิ่มจนเกือบคลานขึ้นเรือ ค่าเสียหายสิริรวม 1353.55 บาท ถือว่าราคาสูงหน่อย แต่บรรยากาศดีจริงจัง ระดับในรั้วในวังแบบนี้ หม่อมฉันให้ 8.5

ฝากติดตาม ป ชวนชิม กินไปจ่ายเองไป ไร้สปอนเซ่อร์ฮ่ะ
https://www.facebook.com/porchanchim/

ใส่ความเห็น

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Connecting to %s