ป ชวนชิม : Gaggan – The Adventure สุด Epic ในร้านอาหารอินเดียระดับโลก เจ้าของรางวัล The best Asia’s restaurant และ อันดับ 5 ของ The World’s 50 best restaurants ….ประสบการณ์ว้าวๆๆ เมื่อประสาทสัมผัสทั้ง 5 ถูกท้าทาย !
( Note : มี Spoiled – สำหรับคนที่จะไปกินแน่ๆ ให้ดูแต่รูปอาหารพอ อ่านได้ แต่ควร skip ข้อความในวงเล็บค่ะ)
ตัดใจอยู่หลายเดือนว่าจะกินดีหรือไม่ดี และในที่สุดก็ได้คำตอบ แม้จะเกลียดเครื่องเทศและอาหารอินเดียมากๆ แต่ เคยไปมุมไปทีนึง พบว่าอาหารอินเดียใต้อร่อยมาก รสจัดไม่เหม็นเครื่องเทศ รสชาติคล้ายอาหารใต้บ้านเรา แม้เชฟ gaggan จะเกิดที่กัลกัตต้าแต่แกเดินทางไปหลายแห่งและนำเสนอ core ingredient ของอาหารอินเดียทั่วประเทศ คงต้องกินได้แหละน่า และ ตอนดูรายการ Chef table ทางช่อง Netflix ตอน Gaggan
ประทับใจกับการต่อสู้-ความมุ่งมั่นและ creativity ของคุณเชฟมากๆ จากเด็กยากจนแทบไม่มีจะกิน พลิกผันมาเป็นเชฟดาวรุ่งพุ่งแรง แล้วตกต่ำไปอีกหลายครั้ง แม้กระทั่งเมื่อตั้งร้านใหม่ที่ไทยร้านนี้ ก็มีอันเป็นไปเมื่อเจอกับการประท้วงครั้งใหญ่ทางการเมือง หลังจากฝนซาฟ้าใส ร้านนี้และตัวคุณเชฟก็ขึ้นหิ้งทั้งในระดับเอเชียและระดับโลก ปลื้มแทนกับรางวัลทุกปีตั้งแต่ปีแรกที่ตั้งร้านในปี 2015 จนปัจจุบัน โว้ว..แล้วงี้จะพลาดได้ไงๆ ..โดยคอนเซ็ปส์ของร้านคือ molecular gastronomy และ progressive Indian cuisine ที่ผสมผสานวิทยาศาสตร์เข้ากับศิลปะการทำอาหาร อาหารร้านนี้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบหลากหลาย จานหลักๆจะยังคงอยู่ โดยเปลี่ยนบางเมนูเป็นระยะ คุณเชฟมีความหลงใหลในอาหารญี่ปุ่น(ที่ชั้นเลิฟสุดๆ) อาหารแนวล่าสุดจึงมีกลิ่นไอซูชิซาซิมิเข้ามาด้วย ท้ายสุดได้ข่าวว่าร้านกำลังจะย้ายไปอยู่ประเทศญี่ปุ่นในปี 2020 ทำให้ตัดสินใจง่ายขึ้น ชีวิตนี้ต้องมีสักครั้งงานนี้ไม่อยากให้มี spoiled เพราะคุณเชฟตั้งใจให้เมนูร้านเป็น emoji ไม่มีรายละเอียดของอาหารใดๆเพื่อใหทุกคนได้ลิ้มลองโดยใช้รูปรสกลิ่นและสัมผัส อย่างไม่มี bias ดังนั้นขอบอกแค่สิ่งที่ซึมซับและรับรู้ ร่วมกับรสชาติที่ใช้ตัวเองเป็นคนตัดสิน
บริการ : เริ่มจองโต๊ะก่อนเลย สามารถจองโดยโทร หรือ on line ได้ อันนี้จอง on line ข้อเสียคือข้อมูลอาจไม่ update ซึ่งอันนี้ควรปรับปรุง เริ่มแรกคือจอง on line ก่อน 2 เดือน หลังจากนั้น 2 สัปดาห์ให้หลังมี e-mail ตอบมาว่า เสียใจด้วย โต๊ะเต็ม เลยจองไปใหม่ 3 เดือนล่วงหน้า ถึงได้ และ จะมี e-mail ตอบกลับมาให้โอนเงินค่าอาหารมาก่อนล่วงหน้าภายใน 7 วัน ถึงจะเรียกว่าการจองสำเร็จ โอนไป 7000 บาทถ้วนค่ะ น้ำตาจิไหล (ข้อดีน่าจะเป็นวันที่ไปกินและจ่ายเงินหน้างาน เราจะได้ไม่ตกใจกับราคามากไป หึๆ ) 1 วันก่อนหน้าจะมีโทรศัพท์จากร้านมา confirm และตามฟอร์ม ถามว่าแพ้อะไรไหม คำตอบอิชั้นคือ “แพ้ความอร่อยฮ่ะ” อ้อ เขามี 2 รอบให้จองนะคะ รอบแรก 17.30 รอบสอง 21.30 แนะนำรอบแรก เพราะ course ยาว 3.5 ชม ถ้าเอารอบหลังน่าจะจบเที่ยงคืนง่ะ
ถึงร้าน คนเยอะมาก ฝรั่ง 90% พี่ไทยนับคนได้ เนื่องจากมาเดี่ยว จึงได้รับเชิญขึ้นไปนั่งชั้น 2 หน้าครัว ซึ่งส่วนตัวชอบโคตร และ นี่เป็นที่มาของการผจญภัยอันแสนสนุกสุดเหวี่ยง เคียงบ่าเคียงไหล่กะคุณเชฟ Gaggan Anand ค่ะ แนะนำที่นั่งตรงนี้เลยฮ่ะ พี่น้องงงง
เจ้าหน้าที่ทุกคนน่ารักมาก เป็นกันเอง ดูจริงใจมากเลยค่ะ ประทับใจที่สุด ส่วนใหญ่เป็นพนักงาน international หลายชาติหลายภาษาค่ะ การบริการให้ 10
อ้อ อันนี้ต้องเล่าเลย เพราะแอบเห็นคุณเชฟเดินไปหลังเคาน์เตอร์ครัว ใช้ปากกาเมจิควงๆอะไรบางอย่างบนกระดาษ
ซูมภาพมาดู พบว่ามันคือ map ที่นั่งของลูกค้าในวงโต๊ะตัว U ที่มีเขียนบอกว่าเรามาจากที่ไหน เช่น กรุงเทพ ญี่ปุ่น USA รัสเซีย อะไรแบบนี้ มิน่า คุณเชฟเล่นมุขกับทุกคนรอบวงได้อย่างโป๊ะเชะและไหลลื่น งานละเอียดจริงๆ เพิ่มคะแนนอีก 2 คะแนน อ้าว เกิน 10 แล้วเรอะ !
สถานที่ : ซอยหลังสวน valet parking แนะนำนั่ง BTS มาลงชิดลมดีสุด ทางออก 4 โลด เดินเข้าซอยหลังสวนข้างเมอร์คิวรี่วิลล์ ประมาณ 700 เมตร ร้านเป็นบ้านสีขาว ตกแต่งน่ารักมากค่ะ
ตรงขวามือเป็นโถงใหญ่ๆด้านบนคือชั้นสองหน้าครัวค่ะ
อันนี้ยิงจากชั้นสองโซนด้านในออกมาตรงหน้าครัว
บรรยากาศในโซนด้านใน
ด้านล่างนี่คือโซนหน้าครัวที่นั่งอยู่ค่ะ
มี 2 ชั้น ด้านขวาของอาคารเปิดโล่ง โดยด้านบนเป็นโต๊ะตัว U นั่งรายล้อมครัวได้ 14 คน กำจัดกลิ่นได้ดี หัวไม่เหม็น ถ้าเหม็นก็เหม็นเหงื่อกันเอง เดินไกล 55 ให้ 9 อาหาร : นั่งโต๊ะรูปตัว U หน้าครัว มีคนสิริรวม 14 คน ไทยสามรวมชั้น นอกนั้นฝรั่งเรียบ หลายชาติหลายภาษา เดาว่าถ้าคนที่นั่งในร้านไม่ใช่หน้าครัวแบบนี้ อาจได้ประสบการณ์คนละแบบกับเรา ขอบอกว่านั่งตรงนี้มันได้อารมณ์มากๆ ได้ตีซี้และแตะมือคุณเชฟตัวเป็นๆ และ lively สุดๆ อีกอย่างคือทุกคนในกลุ่มเริ่มกินอาหารเวลาเดียวกันเด๊ะๆ ทำให้จัดการเมนูและนำกลุ่มได้ง่าย ถ้าตามโต๊ะในห้อง น่าจะมาไม่พร้อมกัน คนอธิบายต้องเป็นตามโต๊ะไป และคุณเชฟ gaggan คงไม่ว่างเดินไปแนะนำและเสิร์ฟแบบนี้แน่ๆ เริ่มเป็ดฉาก คุณเชฟ gaggan เดินเข้ามา มาดติดดินสบายๆ (กัปตันกลุ่มที่เป็นคนเสิร์ฟไวน์ แต่งตัวหรูกว่าแยะ..คนดังแบบนี้ไม่ต้องเยอะ แค่เดินเข้ามาก็เท่แระ 55)
คุณเชฟเดินมาเปิดเพลงมันส์ๆฉีกอารมณ์เป็นฮาร์ดคอร์สุดๆ แหม่ ปลุกเร้าอารมณ์อิชั้นมาก ฝรั่งรัสเซียข้างๆถึงกะหัวเราะก๊าก เพลงมันคึกจริงๆจ้ะเธอ หลังจากนั้นคุณเชฟก็ปราศรัยแนะนำตัวเอง ประวัติที่มาของร้าน และ กติกามารยาท แกเน้นว่า นี่ไม่ใช่ chef table นะ เป็นอาหารที่ทำจากใจ ถ้าใครคาดหวังอาหารอินเดีย คงจะผิดหวัง เพราะมื้อนี้เป็นการผสมผสานประสบการณ์อาหารของแกที่แกอยากให้เป็นและสร้างความแปลกใหม่ให้ทุกคนแค่นั้น..จึ้ก..โดนใจ รักเชฟๆ
อาหาร : 25-course Gaggan experience menu แค่เมนูที่โปรยทางเข้าสู่คอร์สก็กรี๊ดละ ขนาดทำการบ้านมาก่อนนะ เห็นเมนูตัวเป็นๆยังว้าว
เป็น emoji iphone ทำจากกระดาษไข ให้เดาเองว่า main ingredient ในแต่ละเมนูคืออะไร มโนเลย 55 อันนี้ชั้นเชี่ยวอยู่แล้ว ตอนจบจะมีแผ่นเฉลยชื่ออาหารและส่วนประกอบหลักเป็นแผ่นกระดาษแข็งมาประกบกับเมนู emoji อันแรกซึ่งเป็นกระดาษไขบางๆอีกที อย่างเท่ อะ
@ เมนูแรก : A little citrus อารมณ์ประมาณ Amuse boucheส้มยูสุ เย็นเจี๊ยบ อร่อยมาก เปิดปุ่มรับรสได้ดีจริงๆ รสชาติ 10 ความว้าว 9.5
@ เมนู 2 : yogurt explosion Signature และเมนู prototype ที่มาของ “Progressive Indian cousin” ของเชฟเลย เป็นโยเกิร์ตที่คุณเชฟคิดค้นกรรมวิธีที่เรียกว่า spherification ทำให้เป็นรูปหยดน้ำ และ มีน้ำปรุงรสสมุนไพรอยู่ภายใน กินทีเดียวทั้งลูก จะได้รสไข่ๆแบบไข่ตุ๋นเปลือกบางๆในปาก เวลาระเบิดออก มีรสเปรี้ยวๆปนสมุนไพร การระเบิดแตกในปาก มันสุดยอดมากๆ รสชาติส่วนตัวไม่ชอบ ให้ 7.5 แต่ความว้าว 9.5
@ เมนู 3: What did you lick ? เปิดฉากด้วยการเปิดเพลง lick it up ของ วง Kiss แบบกระหึ่มๆ เจ้าหน้าที่ลำเลียงถาดออกมา หน้าตาอาหารเป็นแถบสามสี ด้านบนวาดรูปลิ้นและเขียนเชิญชวนให้เลียไว้ เชฟแนะนำให้ทุกคนเลียตวัดจึ้กเดียวทั้งสามสี ตอนนี้สนุกมากๆ เพราะทุกคนถือถาดกันเก้ๆกังๆ พี่ไทยอย่างชั้นขอเป็นผู้นำสังคม ชเลียเก่งอยู่แล้ว อย่าได้เขิน 55 คุณเชฟพากย์ได้มันส์หยด ตลกจนเกือบสำลัก ได้รสเผ็ดเปรี้ยวอมหวานเล็กๆ ความเผ็ดติดปลายลิ้น รสชาติ 9 ความว้าว 10 เพลง lick it up สร้างความฮึกเหิมจริงจัง เอาใจไปเลยยยยย(เฉลย ingredient หลักเป็น truffle, green peas, fenugreek ที่เขาเรียกกันว่า ลูกซัด and tomato สุดๆ เออ อร่อยแบบแปลกๆ ไม่น่าเชื่อ 555)
@ เมนู 4: Chili egg nestegg จากอินเดีย รองด้วยเส้นกรอบๆที่ทำเป็นรัง ทำจาก potato ด้านในเป็นน้ำเย็นๆรสเปรี้ยว รสชาติ 9 ความว้าว 9 (white chocolate cocoa chili burst รังนกเป็นมันฝรั่งทอดใส่พริก ไข่คือไวท์ช็อกโกเเลตสอดไส้มอสซาเลล่าชีส)
@ เมนู 5 : Idly sambar breakfast เป็นเมนูที่เป็นแป้งทำจากข้าวและถั่วมีน้ำราดเป็นแกง แต่เชฟปรับรูปลักษณ์ให้เป็นลักษณะขนมปังนุ่มม๊าก (fermented rice )ส่วนแกงทำเป็นฟองด้านบน มีรสเผ็ดและรสสมุนไพร รสชาติ 8 ความว้าว 9
@ เมนู 6 : Bombay bhel sandwich แซนวิช เปลือกนอกเหมือนขนมปังแต่มี texture เม็ดเล็กๆภายใน น่าจะคล้ายอาหารอินเดียที่เรียกว่า Bhel puri หรือ ขนมพอง (มั้ย) มีไส้ตรงกลางกลิ่นรสสมุนไพร รสชาติ 9 ความว้าว 9
@ เมนู 7 : egg tart ghewarmilk egg tart แป้งกรอบมากเนื้อหลวมๆหน่อยแต่กรุบกรอบหอม หน้านุ่มมันเนย โคตรชอบ รสชาติ 10 ความว้าว 9(นมแพะ)
@ เมนู 8 : Charcoal pyaz kachoriเหมือนขนมแป้งทอดทีเปลือกนอกเป็นถ่านกินได้สีดำ ปรุงมาร้อนฉ่ากรอบนอก ไส้เป็น potato ปรุงรส เผ็ดติดปลายลิ้นเล็กๆ รสชาติ 9 ความว้าว 8.5
ณ จุดนี้ จานที่วางเมนูทั้ง 5 ก่อนหน้านี้ยังอยู่ตรงหน้าค่ะ และมันเป็นตัวต่อที่ต่อ jigsaw แล้วกลายเป็นแผนที่ประเทศอินเดีย โว๊วว.. สุดยอด creativity ค่ะ (นาทีนี้น้องรัสเซียชะโงกหน้ามาคุยว่า มันคือแผนที่ประเทศสเปนต่างหาก ม55 เออ คล้ายนะ แต่สเปนจะไม่มีมุมแหลมด้านล่าง หลังจากโชว์ map ในอากู๋ทั้งสองประเทศแล้ว เป็นอัน ซ.ต.พ. ฮ่าา)
@ เมนู 9 : White asparagus – No it’s cauliflower !จานนี้รูปร่างเป็น white asparagus วางบนเตาบาร์บีคิว เวลาเสิร์ฟ เชฟเทน้ำลงไปในตัว dry ice ข้างล่าง จนกลายเป็นควันพวยพุ่ง มีกลิ่นหอม หยดๆด้านบนถ้าฟังไม่ผิดน่าจะเป็นเจลพริก หยิบกินเข้าไป อึ้งทึ่งแต่ไม่เสียว นี่มันไอติมนี่หว่า เย็นฉ่ำ ทำจาก cauliflower ว้าวววๆๆ ความอร่อย 8.5 ความว้าว 10
@ เมนู 10 : Cheese porcini pavมาแบบซึ้ง แบบ สี่เหลี่ยมเหมือนกล่องใส่ jewely เผยอแล้วควันหอมๆออกมา เป็นควันจากการเผาหญ้า hay ที่อยู่ในซึ้งเป็นซาลาเปา จัดอยู่ภายในพร้อมช่อไม้แห้ง ว้าวอะ สวยๆ ซาลาเปานุ่มมาก ร้อนฉ่า กัดไปเป็นไส้ชีสลาวา เชฟว่าเป็นการปรุงชีส 3 อย่างเข้าด้วยกัน รสชาติ 10 ความว้าว 9
@เมนู 11 : Eggplant pomegranate sundae ไอติมในโคน อร่อยมากๆ เย็นชื่นใจ โรยหน้าด้วยทับทิมหวานกรุบๆ เปลือกนอกที่เป็นโคนกรอบๆหนึบๆนิดนึง มีรสผสมปนเประหว่างขม-หวาน แถม texture ยังหลากหลาย ตอนกินคิดไม่ออกว่ามันคืออะไรๆ เฉลยอยู่ในวงเล็บค่ะ ให้รสชาติ 9.5 ความว้าว 9.5(เฉลยเปลือกเป็น eggplant heart ไอติมทำจาก eggplant และใส่ส้มยูสุด้วย โหยยยย งงละซีๆ)
@ เมนู 12 : Puncka liver mulled wine มาเป็นลูกปิงปองกลมๆ เปลือกกัดไปกรอบแตกออกข้างในกลวงมีไส้ น่าจะเป็นตับและไวน์ร้อนที่ปรุงจากสมุนไพรหลายชนิดที่มักเสิร์ฟในช่วงคริสต์มาส รสชาติ 8.5 ความว้าว 8 เมื่อรู้ว่ามันคืออะไร จัดไปค่ะคุณ 10 !(Foie gras filled panipuri มี wine ข้างใน อันนี้ peak มากค่ะ foie gras อินเดียของคุณเชฟนี่คือ สมองแพะ กรี้ดๆๆ อร่อย 55)
@ เมนู 13 : Sea urchin hay ice creamหน้าตาซูชิ uni เลย แต่ๆๆ ช้าก่อนเปลือกนอกไม่ใช่สาหร่าย ข้างในก็หาใช่ข้าวไม่ 55 อะไรไม่รู้ ๆ รสชาติ 10 ความว้าว 10 (เมื่อรู้ว่ามันคืออะไรทำจากอะไร) uni ครีมมี่มาก อร่อยสุดๆ เยอะมากๆ( smoked hay icecream ตัวที่คิดว่าเป็นสาหร่ายทำจาก apple อเมซซิ่งสุดๆ)จบ part แรก คุณเชฟตั้งใจให้ช่วงแรก ลำเลียงอาหารมาแบบกระชั้นชิดใน 25 นาทีแรก นัยว่าให้คนกินรู้สึกประดุจโดนยิงรัวๆด้วยความอร่อยของเมนูอาหาร แหม่ อิชั้นล้มตายเลือดสาด (ด้วยความสนุก) ไปหลายรอย เดาผิดเกือบ 100% 55 หลังจากให้ผู้คนหวิด death กับอาหารว้าวๆในช่วงแรกแล้ว คุณเชฟจะเสิร์ฟช้าลงหน่อย (นัยว่าให้คนเก้อ ตั้งตารอคอย แน่เลย ชั้นละคนนึง ได้ผลๆ) แหม่ แนวจริงๆ เพิ่มคะแนนความปลื้มอีก 2 คะแนน
ต่อๆ คุณเชฟเดินไปเปิดเพลงใหม่ ปลุกเร้าชาวร็อคบัลลาร์ด เพลงกระหึ่ม เพราะมาก ไฟค่อยๆหรี่ลง เสียงคุณเชฟร้องเพลงคลอไปเบาๆ ตื่นเต้นๆ มีสมาชิกที่นั่งกินอยู่ลุกขึ้นเต้นรำกับเจ้าหน้าที่ร้าน เหวย น่ารักอะ ชอบๆ
@ เมนู 14 : Otoro sushi tributeซูชิ โอโทโร่ ข้างล่างไม่ใช่ข้าวแต่เป็นไรง่ะ อร่อยสุดขีด โอโทโรสดหวาน อร่อยม๊ากกก ละลายในปาก รสชาติ 10 ความว้าว 8(dashi meringue แทนข้าวญี่ปุ่น ใส่ยูสุและวาซาบิ….ว้าย เริ่ด)
@ เมนู 15 : Winter carrots pepper soupซุปแดงเข้มรสเปรี้ยว เวลากินให้ใช้สองมือโอบถ้วยไว้ ตอนแรกคิดว่าเป็นมะเขือเทศ ผิดดด มันคือ carrots ฮ่ะ หลังกินมี after effect เผ็ดปลายลิ้น (อีกละ) รสชาติ 8.5 ความว้าว 8
( Winter black carrot soup, tamarind pepper tomatoes)
@ เมนู 16 : River prawn balchao Tandoori กุ้งลายเสือเสิร์ฟพร้อมแกงชุ่มๆ เรียกว่า Balchao curry อันนี้ Balchao เป็นชื่อซอสชนิดหนึ่งของโปรตุเกสนะ รสเข้มข้น เผ็ดหวานนิดๆ กุ้งตัวกลางๆ ย่างสุกไปนิด รสชาติ 9 ความว้าว 7.5
เปิดแผ่นดำออกซิ มีไรมั่ง
@ เมนู 17 : Scallops cold curry เมนูนี้สวยมากสะกดสายตา ..แกงกะทิหอยเชลล์สด หอยเชลล์นุ่มสดหวานมาก ตัวซอสแกง เป็นหัวกะทิ อภิมหา creamy มาก เค็มนำปะแล่มๆเผ็ดปลายลิ้น อีกแล้วว เริ่มสงสัยว่า เฮ่ย จากความเผ็ดจานก่อนหน้านี้เปล่าวะนี่ 55 เริ่มมึน รสชาติ 8 ความว้าว 8.5
@ เมนู 18 : Tibetian momo pork vindalooVindaloo เป็นซอสมะเขือเทศใส่น้ำส้มสายชู ส่วน momo เป็นเกี๊ยวซ่า (dumpling) แบบทิเบต ตัวแป้งเกี๊ยวหนึบๆกระด้างนิดๆ มีไส้หลายชิดทั้งหมูและผัก ราดซ้อสแล้วอร่อยดี แจ่ไม่ชอบแป้ง อยากให้นุ่มบางกว่านี้ ไส้ด้านในเป็นถัวเขียว แป้งหนึบ ซอสรสเปรี้ยวนำเผ็ดตาม แปลก รสชาติ 8 ความว้าว 9
@ เมนู 19 : Lamb chop lemon chili ขาแกะปรุง herb ย่างมาหอมมากๆนุ่มมากละลายในปากไม่มีกลิ่นสาปใดๆ ว้าวสุดๆ ซอสเค็มเผ็ดปลายลิ้น รสชาติ 10 อยากให้ 100 นึงเลย เพราะอร่อยสุดในชีวิตที่เคยกิน ความว้าวของการนำเสนอ 7.5
หลังจากกินเสร็จ ไฟดับพรึ่บ เชฟปรุงอาหารโดยเผาอาหารบางอย่างบนไม้ซีดาร์ ตอนมาเสิร์ฟเห็นแค่ไฟที่แผดเผาบนอาหาร พอไฟเปิดพรึบ มาละเมนูถัดไป
@ เมนู 20 : Sea bass Bengali paturi ห่อหมกใบตองย่างนั่นเอง วางบนไม้ซีดาร์ ด้านในเป็นปลาเนื้อขาวนุ่ม สดหวานหอม รสซอสที่ปรุงเข้าเนื้อมากๆ เข้มข้น รสชาติ 9 ความว๊าว 10
เก็บจานเสร็จ เพลง star wars กระหึ่มเลย ตื่นเต้นๆ เจ้าหน้าที่ลำเลียงยานแม่สีฟ้ามาแล้วไฟก็เปิดพรึ่บ ทุกคนได้ยานกลมๆคนละลูก นี่ละ เมนูที่ 21 ตื่นตาตื่นใจสุดๆ
@ เมนู 21 : Grandma egg my death star
เปิดมาชั้นบนเป็นข้าว Basmati ชั้นล่างเป็นไข่แดงบนแกงสีเขียวๆรสเค็มๆ ใส่ข้าวลงไปคลุกกับแกงและคนไข่แดงเข้าด้วยกัน รสชาติ 7 ความว้าว 9.5(Aged Basmati Rice, spinach curry and slow cooked egg)
@ เมนู 22 : This rose has no thorn
กุหลาบสีแดงกับสีขาวมาเสิร์ฟโดยมีฝาแก้วทรงสูงครอบ อันนี้รสชาติชั้นเดาไม่ออกว่าอะไร น้องรัสเซียข้างๆบอกว่าจากการดม น่าจะเป็นอัลมอนด์ด้านล่างผสมกับแป้ง นอกนั้นไม่รู้ ดอกกุหลาบหนึบๆนิดนึง รสชาติ 8 ความว้าว 9 พอรู้ว่าทำจากอะไร ให้ 9.5(มาชเมลโล่ …อะไรกันนี่ๆ เชฟบอกว่า แรงบันดาลใจมาจาก beauty & the beast )
@ เมนู 23 : Achu murukku strawberry yogurt
สตรอเบอรี่แยม บนขนมเหมือนขนมดอกจอกของไทย ดูเหมือนเบสิคๆ แต่กัดเข้าไปเป็นไอติมเย็นๆเปรี้ยวๆมันๆทะลักออกมาโดยข้างนอกยังกรอบอยู่ ความอร่อย 10 ความว้าว 9.5
@ เมนู 24 : Yin Yang salted pepper popcorn
ตอนกินไม่รู้อีกละว่าคืออะไร เย็นแบบไอติม แต่ texture เหมือนแป้งร่วนๆนิดๆเค็มหน่อยๆเป็นผงๆเล็กๆ เผ็ดปะแล่มไน้องรัสเซียข้างๆเดาถูกอีกละว่ามันเป็น popcorn กับพริกไทย เก่งจุง คุณเชฟหันมาชมเลยแหละ รสชาติ 7.5 ความว้าว 9
(ไอศกรีม ฝั่งนึงเป็น salted pepper อีกฝั่งเป็น รส popcorn)
@ เมนู 25 : Dark side of the moonไฟดับพรึบอีกรอบ เสียงเพลงใหม่กระหึ่ม Pink Floyd ค่ะพี่น้อง เพลงตามชื่อเมนู เสียงกลองตีดังตึบๆ ตื่นเต้นๆ เจ้าหน้าที่ลำเลียงอาหารเมนูสุดท้ายออกมา แต่ยืนรอเพลงขึ้นเนื้อร้อง ไฟเปิดพรึบ แล้วค่อยเสิร์ฟ อาหารตรงหน้าเป็นก้อนดำๆเหมือนขนมเค้กโรลตรงกลาง พื้นเป็นสีรุ้งกระจายรอบๆ เชฟว่าจานนี้ได้แรงบันดาลใจจากปริซึ่ม ตัวขนมตรงกลางเป็นไรไม่รู้ เย็นกรอบและเนื้อหลวมและกรุบมาก เวลากินต้องเอาก้อนนี้ถูไปกับพื้นสายรุ้ง รสชาติจืดๆร่วนๆ ให้ 7.5 ความว้าว 9
จบอย่างชื่นมื่น ยังคึกอยู่เลย เฉลยซะแระ
อ้อ เครื่องดื่มสั่งเองเพิ่ม น้ำเปล่าขวดละ 250 บาท จะสั่ง wine pairing ก็ได้ อิชั้นนางเอกค่ะ น้ำส้ม 250 บาทเช่นกัน หวานฉ่ำส้มแท้มากๆ อยากให้เปรี้ยวเจือๆนิดฮ่ะ
ราคา : ในความสะเทือนใจเลือดไหลซิบ เรายิ้มและหัวเราะกว้างๆได้อย่างมีความสุข มันให้ความรู้สึกกระปรี้กระเปร่า เหมือนได้กลับเป็นเด็กอีกครั้งและเล่นเครื่องเล่นในสวนสนุกสุดล้ำ ถ้าเรายอมจ่ายได้ขนาดนี้ เราไม่ได้ต้องการแค่รสชาติอาหารระดับมิชลิน 2 ดาวเพียงอย่างเดียวละ และ ร้านนี้เราจะ “ได้” และซึมซับความประทับใจขีดสุด กับทุกอย่างที่ร้านสรรค์สร้างมาอย่างจัดเต็มจัดหนัก เอาสั้นๆ โคตรคุ้มกับประสบการณ์สุด surprise ๆๆ ไม่เหนื่อยเลย มันตื่นเต้นทุกครั้งที่จานใหม่จะมา เก็บร้านมิชลินมาจนเกือบครบ นี่เป็นร้านหนึ่งในดวงใจที่ “ต้องไปซ้ำ” แน่ๆค่ะ ให้ 10 คะแนนเต็ม !
เหนื่อยมากในการรีวิว แต่ after effect แห่งความสนุกยังกรุ่นๆอยู่ในอารมณ์ถึงปัจจุบันค่ะ