L’Atelier de Joel Robuchon : Fine dining แบบชิคๆของเชฟมิชลินระดับโลก @ตึกมหานคร – อร่อย ราคาไม่เว่อร์อย่างที่คิด !

ป ชวนชิม : L”Atelier de Joel Robuchon – fine dining แบบชิคๆของเชฟมิชลินระดับโลก @ตึกมหานคร ..อร่อย ราคาไม่เว่อร์อย่างที่คิด !

วันนี้มาลองร้านระดับมิชลินสตาร์อีกร้านบนตึกมหานครคิวป์ ตึกนี้มีร้านอร่อยเยอะเลย คราวก่อนกิน Morimoto ไป ประทับใจมากๆ ร้าน L”Atelier ของเชฟโจเอล นี้เขาดังมากเพราะเปิดหลายสาขาทั่วโลก และเขาเป็นเชฟที่กวาดมิชลินสตาร์จากร้านของเขาได้สิริรวม 25 ดาวกันเลยทีเดียว และเป็นเชฟเพียงไม่กี่คนที่ได้รับสตาร์สูงสุดถึง 3 ดวงทีเดียวเชียว สาขาในไทยได้เชฟโอลิเวอร์ที่เป็นเชฟมิชลิน 2 ดาวมาดูแล เชฟคุยเก่งและอารมณ์ดีมากๆเลย

ออกตัวก่อนว่าแสงในร้านน้อยมาก อาหารตัวจริงน่ากินกว่านี้ ถ่ายรูปมาติดเหลืองส้มหมดเลย ปรับสียากมาก เศร้า

เมนูและราคา

ตัวเลือก

อาหาร : เปลี่ยนตามฤดู ช่วงนี้เพิ่งเปลี่ยนเมนูเป็นหน้า summer เลือกไปกินกลางวันเพราะถูกหน่อย ไม่ใช่อะไร 55 ราคาย่อมเยากว่ามื้อเย็นเยอะอยู่ สำหรับ Lunch set มี 2 courses (950บ) 3 courses (1450 บ ) และ 4 courses (1950 บ) โดยถ้า 2 courses จะเป็นเซ็ต fixed เลือกอาหารไม่ได้ ที่เลือเลือกได้โดยต่างกันที่ จำนวน entree 1 กะ 2 จานตามลำดับ วันนี้ขอเลือกอันแพงสุด ถามน้องเจ้าหน้าที่ร้านละ เธอเห็นศักยภาพชั้น เธอว่าน่าจะไหว จัดไป 55

อาวุธตรงหน้า

เลือกน้ำๆ ไม่เอาน้ำธรรมดา ขอ fruit punch รสชาติเข้มข้นเปรี้ยวหวานกำลังดี อันนี้ไม่ได้ว้าวมาก ธรรมดานะ

เริ่มด้วยของฟรี กินได้ไม่อั้น bread basket มี ขนมปัง 6 แบบ จัดไปอย่างละอันไม่ให้น้อยใจกัน

ชอบรูปเหลี่ยมดีปลาหมึกที่สุด นุ่มอร่อยมาก ไม่ค่อยรู้สึกว่าเป็นดีปลาหมึกนะ

เนื้อใน

บาเก็ตต์อันยาวรูปกระสวย นอกแข็งแบบไม่กระด้างในหนึบหนับ

อ้อ มีเนยมาด้วย ไม่ได้ใช้เท่าไร

ขนมปังแฮมธรรมดาอะ

ส่วนอันนี้น่าจะเป็นโรสแมรี่มีใบโรสแมรี่อยู่ด้านบนนุ่มมากอร่อยมากหอมๆหน่อยนึง

อันที่เป็นวงๆก้นหอยน่าจะเป็นครัวซองค์ กรอบแบบนุ่มในเนียนๆมันหอม

และอีกอันเหมือนหลุมมีชีสตรงกลางเค็มนิดๆ กินขนมปังตะกร้าเดียวก็คุ้มละ ละเลียดไป ตะกร้านี้จะอยู่กะเราไปยันจบอาหารคาวเลย ไม่ต้องรีบ มูมมามจะเสียกิริยา

จานต่อมา Complimentary amuse bouche : มี 2 แบบ

Soft and Crisp quinoas, smoked piquillo flavor เป็นควินัวผสมซอสมายองเนสปั้นกลมทอดแล้วราดซอสพริก piquillo ที่เป็นพริกสเปน หน้าตาน่ารัก อันเล็กแค่เนี้ยะแต่ตกแต่งเว่อร์วังตามสไตล์มิชลิน รสชาตินัวร์สุดๆไม่เผ็ดนะ มันมีรสเผ็ดฉาบปลายลิ้นตอนจบนิดเดียว อธิบายไม่ถูกออกกรุบๆควินัวร์แต่มีรสมันๆ

อีกอันเป็นข้าวทอดกรุบกรอบราดน้ำซอสครีมๆ อันนี้จำอะไรไม่ได้ มัวแต่กิน ฟังไม่ได้ศัพท์ รู้แต่นัวร์มาก เข้าปากไปอุทานว้าวๆๆ มิชลินจริงๆค่ะคุณ

Entree มาละ เลือกจานแรก entree แบบเย็น คือ Le Bar

เป็นปลา sea bass แล่บางๆคลุมอยู่บนแอสพารากัสที่นาบไฟหอมสุกกำลังงามราดด้วยซอสวาซาบิ เขาว่าเป็น Mimosa style อร่อยๆๆ

อีกจานเป็น entree แบบร้อน La Saint Jacques

เป็นซุปแอสพารากัสราดบนหอยเชลล์และ อัลมอนด์กรุบกรอบที่ทำเป็นแผ่นบางเล็กๆ

อร่อยโคตรๆ ไม่ชอบผักยังกินอย่างไม่กระดากใจ หอยสดสะๆ
จานหลักสายเนื้อมีจานนี้ละ เพิ่ม 500 บาท Le Boeuf

เป็นส่วน fillets และ white asparagas ใส่ซอสรสเข้มข้นเนื้อหยาบๆอร่อยดีไม่ต้องปรุงเพิ่ม

เนื้อนุ่มละลายในปาก สุกอย่างที่สั่ง แต่อยากได้ส่วน ribeye หรือ sirloin ติดมันและเนื้อ texture หยาบๆนิด อันนี้ lean ผู้ดีไปนิด มีขนมปังกรอบๆข้างๆ

หน้าอะไรไม่รู้ รู้แต่อร่อย 55 อร่อยเชียว เขียนว่า negi grilled ใช่อันนี้มั้ยไม่ชัวร์ จานนี้มาพร้อม mashed potato

ยืนยันว่าเป็น mashed potato ที่โคตรเนียนนุ่ม ผู้ดี๊ผู้ดี อร่อยหอมมันกลมกล่อมสุดๆ

ขนม Fleur caramel เป็นคาราเมลคัสตาร์ดที่ด้านล่างเป็นส้มเสิร์ฟพร้อมไอศครีมส้มแมนดาริน

หน้าตาน่ากินมาก ฝรั่งนั่งข้างๆสามคนหันมาดูร้องว้าวๆๆ รสคัสตาร์ดเข้มข้นนุ๊มนุ่ม ส้้มด้านล่างออกขมเปลือกเคล้ากับรสส้มเปรี้ยวหวาน ไอศครีม sorbet มาในถ้วยรูปไข่

เปิดฝามาเจอไอศครีมตักมาเป็นรูปรี มีช็อคเม็ดกรุบๆโรยไอติมเนื้อเนียนเปรี้ยวกำลังงามแถมมีเม็ดช็อคโกเลตกรุบๆใส่มาด้วย

ตัวคัสตาร์ตนุ่มมาก ตักไปเห็นชั้นๆรสส้ม แต่แอบขมไปนะ

ยัง ยังไม่จบ ตบท้ายด้วยของหวานล้างปาก complementary petite four 2 ชิ้น (กะว่าได้ 4 นะนี่)

ิ้ชิ้นแรกเป็น salty caramel chocolate ช็อคโกเลตกรอบนอกในนุ่มมีเนื้อช็อคเหมือนลาวาแต่หนืดหนึบนุ่มๆเนียนๆ ไม่หวานเว่อร์ ไม่เค็มมากด้วยนะ

กับอีกอันเป็นขนมอบกลิ่นส้ม yuzu รสเหมือนบ้าบิ่นแต่หอมมากๆเนื้อหยาบแต่นุ่มนวล อร่อยอะ

กัดขนมอบ หน้าตัดเป็นงี้

รวมอาหารดีม๊ากก สมชื่อร้านมิชลิน เชฟผู้ operate สาขานี้ได้มิชลินสองดาวมาจากอังกฤษ ให้อาหาร 9 แอบผิดหวังเนื้อไปนิด คนชอบเนื้อส่วนสันในคงเลิฟ ชั้นชอบสันนอกติดมัน
บริการ – ดีเลิศประเสริฐศรี แทบจะอุ้มไปส่งที่นั่งและอุ้มมาส่งหน้าลิฟท์ตอนกลับบ้านอย่างชื่นมื่น อธิบายทุกจานทุกเม็ด เพียงแต่เราจำได้ไม่หมดอะแหละ ปัญหา ให้ 10

สถานที่ – ตึก cube มหานคร ที่มีร้าน dean & deluca ด้านล่างน่ะ อยู่ตรงรถไฟฟ้าช่องนนทรีลงปุ้บถึงเป๊ะ ร้านอยู่ชั้น 5 เปิดประตูลิฟท์ปุ้บ สีแดงแช้ดแยงตาทันควัน

เริ่มต้นจะแอบนึกว่าร้านจีน

หน้าร้านนะนี่

แต่เข้าร้านไปได้อารมณ์ไฮโซโมเดิร์น แดงดำเหมือนเดิม

่อ่านดูในอากู๋เขาดีไซน์โดยสถาปนิกระดับโลก มีโซนฮ็อตที่ต้องจองเป็น counter bar นั่งประจันหน้าครัวเปิด ได้อารมณ์ live มากเลย

เชฟ 2 คน เชฟโอลิเวอร์เดินมาเมาท์ๆกะคนกินเป็นระยะ กะเชฟผู้ช่วยฝรั่ง หล่ออะ อาหารตา หันก้นให้เกือบตลอด

มีอีกโซนด้านหลังเป็นโต๊ะส่วนตัว ไม่เห็นอะ เพราะเลือกโซนแรก ไม่มีหัวเหม็นตัวเหม็นนะ เชฟน่ารักมาก ได้ยินเสียง yes chef ดังเป็นระยะแบบพร้อมเพรียง เหมือนอยู่ในรายการ hell’s kitchen กับกอร์ดอน แรมซีย์ รึ เอาเป็น master chef Thailand ก็ได้ ให้บรรยากาศ 9.5 เก้าอี้สูงจัง ชั้นเกิดมาขาสั้น ขึ้นลำบาก แต่น้องคนมาส่งก็พร้อมจะอุ้มเราขึ้นทุกเมื่อ 55
ราคา – ตามข้างบน สูงแต่ของดี ตามจำนวนคอร์สที่เลือก ประดิดประดอย fine dining ตามสไตล์ระดับเชฟมิชลิน คุ้มค่า น่าประทับใจ ให้ 8.5 มีบางเมนูเพิ่มเงินด้วย น่าจะไม่ต้องเพิ่ม จริงๆสั่งสามคอร์สกำลังอิ่มพอดี แต่สี่จะได้ entree ที่อร่อยมากๆเพิ่มอีกจาน อลังการจริงจัง เทียบกับมิชลินอีกร้านในมื้อกลางวันเหมือนกันที่ Le Normande แอบรัก Le Normande มากกว่า อันนั้นอารมณ์หรูหราและละเมียดละไมด้วยสถานที่และบริการแบบ รร 5 ดาว บวกต้องมีข้อแม้ dress สุภาพนิดนึง (ไม่มากสำหรับมื้อกลางวัน) แพงกว่าร้านนี้หน่อยนึง โดยเฉพาะค่าน้ำเปล่า อันนู้นตั้ง 500 แน่ะ ส่วนร้าน L’Atelier จะชิคๆชิลๆกว่า แต่งตัวชิลๆได้ขอเพียงไม่ใส่ขาสั้น บรรยากาศจะออกแนวโมเดิร์นหน่อย อ้อ ถ้าแบบลำลอง สบายๆชิวๆ ระดับมิชลินอร่อยโฮก ไม่ต้องเดรส ให้เสียอารมณ์ Blunos เลยค่ะพี่น้อง เลิฟๆ

ใส่ความเห็น

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Connecting to %s